ฝึกยิงปืน

           ฝึกได้สักระยะนึง ทหารใหม่เริ่มจับปืนได้คล่องแคล่ว มีความแข็งแรง มีระเบียบวินัย มากพอแล้ว ก็จะได้ทำสิ่งที่น่าตื่นเต้นอีกอย่างของลูกผู้ชายชาติทหาร นั่นคือ การได้ยิงปืนของจริง ซึ่งการฝึกในขั้นนี้ ครูฝึกจะให้ความใส่ใจ เป็นพิเศษ เพราะว่าอาจมีอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว
            ปืน HK33 ที่หนัก 3.5 ก.ก เมื่อใส่ซองกระสุนแบบยาวจนเต็ม ผมว่าน้ำหนักไม่น่าจะต่ำกว่า 5.5 ก.ก เห็นจะได้เพราะมันหนักมาก (ทหารที่อยู่ในสนามรบ คงแบกปืนหนักอย่างนี้ทุกวัน)
แต่ตอนที่ทหารใหม่ได้ทำการซ้อมยิงเป้านั้น ครูฝึกจะแจกกระสุนให้คนละ 9 นัดเท่านั้น เมื่อได้รับแจกกระสุนแล้วเราจะต้องให้คู่บัดดี้ของเราเป็นคนบรรจุ และขณะยิง คู่บัดดี้ของเราจะเป็นคนขานบอกว่าเรายิงไปกี่นัดแล้ว พร้อมกับนำหมวกมารองปลอกกระสุน เพื่อนำไปส่งครูฝึกให้ครบตามจำนวนที่ยิง
         เสียงปืนดังมาก เหมือนมีใครเอาลูกประทัด ปิงปอง มาจุดใกล้ๆคุณ ปืนจะกระตุกมาข้างหลังเล็กน้อยขณะยิง ตามประสบการณ์ของผม การที่เรายิงปืนไม่เข้าเป้าเป็นเพราะเราจะตกใจกับเสียงปืนของเพื่อนที่อยู่ข้างๆ เพราะมันอยู่ใกล้กับหูคุณนั่นแล้ว
          เมื่อยิงเสร็จ ก็ได้เวลากินข้าวเที่ยงพอดี ฝนตามฤดูก็ได้โหมกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง แต่รถเสบียงอยู่อีกฟากหนึ่งของสนามยิงปืน จึงต้องวิ่งฝ่าฝนไปรับอะไหล่(อาหาร)กัน ถือถาดหลุมวิ่งไปถึง น้ำฝนเต็มถาดพอดี เละปนกันไปหมด แต่เราต้องกิน กินเพื่ออยู่ กินเพื่อให้มีแรงฝึก กินเพื่อจะได้มีแรงเห็นวันพรุ่งนี้ต่อไป จะได้มีแรงสมกับเป็น"ทหารกล้า"

เพื่อนๆของพวกเรา เยอะมาก ครับผม

Search